ประสบการณ์หาที่พักในเยอรมนี

 



#ประสบการณ์ส่วนบุคคล ไม่สามารถใช้ได้กับทุกบริบทนะคะ
ช่วง 30 วันแรก เป็นช่วงที่ต้องจัดการและปวดหัวกับเรื่องเอกสารล้านแปดที่ต้องเตรียมและงานช้างที่สุดคือการ #หาที่พัก ยิ่งถ้าคนมีงบประมาณจำกัดยิ่งยากหนักเข้าไปอีก
คนที่ย้ายมาเยอรมันคนเดียว แบบพูดเยอรมันไม่ได้เลย (เหมือนตอนที่เรามาที่นี่ตอน 23) ลำบากมาก ถ้าไม่ได้คนเยอรมันคอยช่วยเหลือ ทำความเข้าใจระบบต่าง ๆ หรือใช้ชีวิตประจำวัน ในเมืองที่ไม่ใช่เมืองใหญ่
กระบวนการราชการและการตั้งหลักมีดังนี้
มีที่พักถาวร พร้อมใบรับรองจากเจ้าของโฉนด > ลงทะเบียนเข้าเมือง > เปิดบัญชีธนาคาร > เปิด SIM card > ติดตั้ง wifi
Keyword สำคัญที่จะทำอะไรก็ติดไปหมด คือ #ลงทะเบียนเข้าเมือง (นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องต่อวีซ่านะ) คือคุณจะทำธุรกรรมหลายอย่างไม่ได้ถ้าไม่มีใบนี้จากทางราชการ
ไปซื้อ SIM card ตามร้านอย่าง Telekom ก็ไม่ได้ เปิดบัญชีธนาคารก็ไม่ได้
พอไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีเบอร์เยอรมัน ทำให้เวลาสั่งของ ไม่มีเบอร์ติดต่อให้เค้า ต้องขอเบอร์เพื่อนร่วมงานให้คอยติดต่อแทน แล้ว WhatsApp บอกเราอีกที





Mission 1: การหาบ้าน
เราติดต่อหานายหน้าตั้งแต่ก่อนบินมา 1 เดือน พอเรามาถึงก็ขอดูบ้านเลยตั้งแต่วันที่สอง ซึ่งทั้ง ๆ ที่เราส่งขอดูบ้านไปหายสิบที่ ได้ตอบกลับมาแค่ที่เดียว เป็นตึกที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 เราจะเป็นผู้เช่าคนแรกของห้อง ทุกอย่างใหม่เอี่ยม แต่ก็มาพร้อมรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่ต้องยอมรับ เช่น
📍เสียงจากการก่อสร้าง ที่ยังมีบางส่วนไม่เสร็จดี โดยไม่สามารถเรียกร้องให้ลดค่าเช่าได้
📍สวนที่ยังไม่สมบูรณ์ เลยยังไม่สวยมาก
📍เพื่อนบ้านยังอยู่ไม่เต็ม บางคนอาจไม่ชอบ เพราะรู้สึกไม่อบอุ่น
สัญญาเช่าบ้าน เป็นสัญญาที่ยาวมากและเป็นภาษาเยอรมันหมด ตอนนี้เราอ่านเองเข้าใจ 60-70% แต่ก็ต้องขอให้เพื่อนคนเยอรมันช่วยอ่านอีกที ซึ่งโชคดีที่สัญญาเรียบร้อย และไม่มีข้อจำกัดทางการเงินมากนัก ทำให้เราได้บ้านภายใน 15 วัน ซึ่งถือว่าเร็วมากจากมุมมองของคนที่นี่ที่หามาหลายเดือน ต้องอาศัยบ้านเพื่อนร่วมงานนอนอยู่ 3 เดือน
และพอจะเช่าบ้าน ก่อนที่จะยอมให้เช่า เค้าจะเช็คสถานะการเงินของเราผ่านบัญชีธนาคาร schufa ซึ่งพอเรายังไม่มีบ้าน (ตรรกศาสตร์เบื้องต้น กลับไปดูข้างบน) เราก็เปิดบัญชีธนาคารไม่ได้
ซึ่งก็ต้องอธิบายให้นายหน้าฟัง ว่าเราคนต่างชาติอย่างดิชั้น ก่อนจะได้วีซ่ามาต้องมี
1. Blocked account ที่คุณต้องโอนเงิน 861€ x 12 months คือ 10,332€ มาไว้ที่เยอรมันก่อน ซึ่งทางการจะอนุญาตให้ถอนออกมาได้จำนวนเท่านี้ในแต่ละเดือน เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะไม่ออกไปเร่ร่อนหาเงินเพื่อใช้จ่ายตลอด 1 ปีที่อยู่ที่นี่
2. สลิปเงินเดือนย้อนหลังไปหกเดือน พร้อมสัญญาจ้างงานจาก PwC ซึ่งต้องแปลงค่าเงินบาทเป็นยูโรให้อีก แถมเจ้าของบ้านแก่แล้ว อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก 😑 นายหน้าต้องช่วยแปลคร่าว ๆ ให้ ไม่งั้นอิชั้นต้องนั่งแปลสัญญาจ้างของ PwC เป็นเยอรมันอีก บ้าบอคอแตก
ซึ่งค่าเช่าบ้าน 650€ เงินจาก blocked account ก็ควรจะพอแล้ว สำหรับการจ่ายเงินได้ทุกเดือน โดยราคาค่าเช่า ซึ่งรวมค่าที่จอดรถใต้ดินอีก 55€ ก็ทดไว้ว่าเป็น mission ที่ต้องประกาศหาเพื่อนบ้านมาช่วยเช่าต่อ เพราะอิชั้นไม่ขับรถ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ ที่เริ่มดำเนินการไปแล้วทุกอย่าง แต่ติดขัดจุกจิกที่จะทดไว้เขียนภายหลัง
📍การเปิดบัญชีธนาคาร
📍การติดตั้ง Wifi ที่บ้าน
📍การซื้อ SIM card
📍การซื้อเครื่องซักผ้าและให้มาส่งบ้าน
📍การลงทะเบียนเข้าเมือง
📍สั่งเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA
📍หาคนเช่าที่จอดรถต่อ
#สรุป 30 วันแรก ไม่เหงาเลยค่ะ ไม่มีเวลา ไม่มีพลังงานจะเหงา เพราะนอกจากเรื่องพวกนี้ ยังทำงานให้ PwC อยู่ด้วย โดยอาทิตย์นี้โหดมาก คือตื่นตีสองตีสาม 3 วัน แล้วยาวไปจนถึงเที่ยงวัน ไปต่อตอนบ่ายถึงเย็นกับงานที่เยอรมันพูดคุยกับทีม PhD เพื่อเตรียมทำงานวิจัยเต็มรูปแบบสิ้นเดือนนี้ วันนึง 12 ชั่วโมงชิล ๆ นอนสามทุ่ม กินข้าว 2 มื้อจบ





Kommentare

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ