ลัดเลาะสอดส่องร้านหนังสือ ณ กรุงลอนดอน
#1stTimeinLondon เป็นการมาประเทศอังกฤษครั้งแรก ในเวลา 6 วัน ที่ไม่ได้ไปดูจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไปเลย และไม่ได้ไปร่วมเคารพหรือไว้อาลัย Queen Elizabeth II ด้วย 🥹
-
- ตั้งใจอยากไปสัมผัสเมือง
- แอบดูผู้คนใช้ชีวิต
- ไปดูแข่งขันเทนนิส Laver Cup 2022 อำลา Roger Federer
- ซึมซับสำเนียง British (ที่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ยินบ่อยขนาดนั้น)
- เดินเล่นตามถนน (มีวันหนึ่งเดินไป 12 กม! 28,xxx ก้าว)
- กินขนม จิบน้ำชายามบ่าย
- เดินเข้าออกร้านหนังสือ
-
ร้านหนังสือสวยมากกก ชอบการจัดวางแบ่งเป็นประเทศของผู้เขียน วันแรกไม่มีเวลามาก แค่ถ่ายรูปแล้วต้องไปต่อ แต่วันที่สองเข้าไปเดินดูทีละมุม แล้วก็หยิบกลับมาสองเล่ม
📕
เล่มแรกคือ non-fiction ของ #Murakami "What I talk about when I talk about running" ที่อ่านจบไปสองรอบในฉบับแปลภาษาเยอรมัน เล่มนี้ซื้อเก็บสะสมเฉย ๆ ตามนิสัยของติ่งเฮียมู
📕
เล่มที่ 2 เป็นนักเขียนดังชาวตุรเคีย ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสงานของเขา Orhan #Pamuk เรื่อง "My name is Red" แว้บแรกแอบคิดถึง Red ของหนังสือและภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่าง shawshank redemption เลย เล่มนี้แอบหนาอยู่ แต่น่าจะอ่านจบไม่ยาก ให้อารมณ์เหมือนเรื่อง Shantaram มั้ยนะ?
-
ได้ลองไปร้าน Hatchard อีกร้าน ที่ก่อตั้งตั้งแต่ 1797 ชอบความเป็นตึกแบบโบราณ แล้วมีแนะนำหนังสือที่ Queen อ่าน 70 เล่มด้วย รู้สึกเหมือนเป็นร้านขายหนังสือ กึ่ง ๆ พิพิธภัณฑ์ เพราะมีหนังสือเก่า ๆ โชว์ในตู้กระจก ครั้งหน้าจะเอารูปบรรยากาศในร้านมาแบ่งปันนะคะ รีบ ๆ หยิบหนังสือกลับมาจากร้านเล่มหนึ่ง พร้อมได้บัตรสมาชิกที่ทำได้ classic มากมาด้วย เล่มที่ได้มาคือนักเขียนจากแทนซาเนีย Abdulrazak Gurnah เรื่อง "Paradise" ไม่แน่ใจว่ามีใครเคยอ่านบ้างรึเปล่า?
เพราะแอบประหลาดใจกับโชคชะตามากก ที่เปิด ๆ อ่านเบื้องต้น เป็นการพูดถึงยุคที่เยอรมันล่าอาณานิคม German East Africa ผิดกับความตั้งใจดั้งเดิม ที่แค่อยากลองอ่านงานเขียนของนักเขียนจากหลากหลายเชื้อชาติ
-
สุดท้าย มีใครอยากแนะนำ #ร้านหนังสือ ที่มีสไตล์คล้ายคลึงกับ Daunt Books และ Hatchard บ้างรึเปล่าคะ? นี่จะไปตระเวนแวะห้องสมุดที่มีอยู่มากมายในประเทศนี้ต่อ 🤓🤓🤓
Kommentare
Kommentar veröffentlichen