แวะเยี่ยม Sherlock Holmes และคุณหมอ Watson

 #2ndtimeinLondon ในฐานะติ่งของ Sherlock Holmes ก็ต้องแวะมาตำร้านขายของและพิพิธภัณฑ์ของนักสืบในตำนาน ประกอบกับ Enola Holmes 2 เพิ่งเข้า Netflix เลยยิ่งอิน


-
หนังสือมีทั้งแบบที่เหมาะกับนักสะสม นักอ่านทั่วไป และเด็กน้อยนักอ่าน เพราะมีทั้งเป็นแบบภาพประกอบ แบบเป็นเกมถอดรหัส หรือ escape room
-
ส่วนของพิพิธภัณฑ์ เป็นบ้านพักของ Holmes พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไกด์อธิบายสนุกดี ฟังเพลินจนลืมไปว่า Holmes เป็นตัวละครของ Sir Arthur Conan Doyle ไม่ใช่คนจริง ๆ มีการแตะตำนาน Jack the Ripper ด้วย (จนทำให้อยากลองไปเดินแถว Whitechapel ถ้ามีเวลาพอ)
ค่าเข้าชม 14£ (เพราะมีบัตรนักเรียนจากมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี) จากปกติ 16£
-
ของที่ระลึกก็หมดไปเกือบ 100£ ถุงผ้ากับน้องเป็ดซื้อฝากคุณแม่ที่บ้าน ส่วนหนังสือกับหมวกของฝ้ายค่าา


สิ่งที่ชอบในการอ่านหนังสือชุดนี้คือการที่สามารถ “ตามรอย” ตัวละครได้อย่างใกล้ชิด อย่างบทนี้พูดถึงถนน Oxford Street ที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรมที่พัก หรือ Cavendish Square Gardens ที่อยู่ห่างจากโรงแรมด้วยการเดินเท้าแค่ 6 นาที
อ่านไปก็สามารถเดินไปดูสถานที่จริงได้ด้วย ซึ่งบางบ้านเลขที่ ณ ปัจจุบันก็กลายเป็นสวนไปแล้ว ไม่ใช่บ้านพัก เหมือนได้เห็นประวัติศาสตร์ส่วนเล็ก ๆ ของกรุงลอนดอน บ้านเกิดของนิยายชุดนี้
ที่ชอบต่อไปคือเวลาที่เห็นประโยค „My dear Watson,“ ทีไร จะแอบจิ้นคู่นี้ทู้กที 🙂 มันดูน่ารักยังไงไม่รู้ แล้วก็จะแอบติดใช้คำโบราณมาพูดกับร้านค้า ร้านอาหารซะงั้น 5555
เวลาเดินเล่นในเมืองพร้อมสูทสีเทาฝีมือ Brand ไทยแท้อย่าง POEM ก็จะได้รับคำชมจากสาว ๆ ที่นี่ว่า
„I love your outfit!“
ให้ได้ภูมิใจกับฝีมือคนไทย
ส่วนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก็จะมีแซวเรื่องหมวกว่า
„I like your cap, you must be a Sherlock Holmes‘ fan!“
นั่งอ่านหนังสือในร้านอาหารเช้า Dishoom อันโด่งดัง ก็มีโต๊ะข้าง ๆ เข้ามาชวนคุยว่าอ่านตอนไหนอยู่
ก็สนุกดีกับการเที่ยวคนเดียว 9 วัน ณ กรุงลอนดอนค่ะ
ไม่น่าเชื่อว่าตัวละครในนิยายจะมีอิทธิพลขนาดนี้ อ่านหนังสือเป็นการช่วยเชื่อมต่อคนแปลกหน้าให้พูดคุยกันได้ไหลลื่นจริง ๆ Hence, #readingissexy.




Kommentare

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ