แท้จริงแล้ว มนุษย์เราตาบอดเหมือนไส้เดือน?








ปกติไม่ค่อยอ่านงานเขียนของคนไทยหรือหนังสือภาษาไทยเท่าไหร่ แต่พอได้ฟังสัมภาษณ์ของพี่แหม่ม วีรพร แล้ว ก็ชอบความคิดของผู้หญิงคนนี้มาก เลยลองไปหางานเขียนของพี่เขามาอ่านเพิ่ม นอกจากนี้ ยังไปเข้า class เรียนการเขียนจากพี่แหม่มด้วยนะคะ ดังนั้น ไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบอะไรพี่แหม่ม แต่ก็วิจารณ์ตรงไปตรงมาตามจริตของเราเอง


เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ป่วยไข้ขึ้น เลยได้นอนยาวพักอยู่บ้าน เป็นโอกาสดี ที่จะ #อ่านหนังสือ แล้วก็ #detox จากพวก #socialmedia ไปพร้อม ๆ กัน สรุปว่า อ่านไปได้ประมาณ 600 หน้า ตามนี้เลยค่ะ

ล่มแรก #ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต #ภาษาเวิ่นเว้อมากกก ไม่ถูกจริตสุด ๆ แต่ก็ทนอ่านจนจบ ปกติไม่ค่อยอ่านหนังสือภาษาไทยอยู่แล้ว พอมาเจอภาษาเว่อวังแบบนี้ เลยยังรับไม่ทันเท่าไหร่ เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวรักสามเศร้า ที่ก็ไม่ถูกจริตเท่าไหร่นัก เพราะรู้สึกเหมือนกับว่า ชีวิตคนเรา มันมีแค่เรื่องความรักเท่านั้นเหรอ? คือมันตื้นเขินมาก สำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์ครั้งหนึ่ง สนใจได้แต่เรื่องของตัวเองว่าเรารักใครยังไงบ้าง ต้องไขว่คว้าพยายามขนาดไหนเพื่อรักษาไว้ สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและชีวิตให้อยู่ในโลกนี้ คือแค่ความรักระหว่างหญิงชาย ไม่ไหวอ่ะ ทนอ่านจนจบ ชอบแค่เรื่องของลุงธนิตกับอาภัทร เรื่องของตัวเอกนี่ โดยเฉพาะชารียา อ่านแล้วไม่ใช่อย่างแรง ซึ่งก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับอ่าน Norwegian Wood ของ #Murakami ที่อ่านแล้ว ก็ไม่ถูกใจขั้นสุดเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นติ่งเดนตายของเฮียก็ตามที


แต่ที่ดีงามของทั้งสองเล่มนี้ คือ #เพลงคลาสสิค ที่สรรหามาสอดแทรกในเนื้อเรื่อง และตัวละครหนึ่งเล่นไวโอลินด้วย นอกจากนี้ ผู้เขียนมีความรู้ในเรื่องการทำอาหารดีมาก อ่านไปก็คุยกับคุณพ่อ ที่ชอบทำอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจ ว่าที่พี่แหม่มเขียนในหนังสือ นี่ถูกมั้ยนะ? แล้วก็เรื่องต้นไม้ ดอกไม้ ที่เราชอบมาก แต่ยังรู้สึกว่าการจะทำให้ #ตัวอักษร มัน #ส่งกลิ่นอบอวล ออกมา ยังทำได้ดีกว่านี้อีก ตรงนี้ ไพล่ไปนึกถึง Das #Parfum ของ Patrick Süskind ที่เป็นหนังสือเล่มแรก ที่ทำให้เราจินตนาการถึง #กลิ่น ของกรุงปารีส ในศตวรรษที่ 18 ได้อย่างแบบ เอ่อ บรรยายไม่ถูก

#สรุปคั่นแรก เล่มนี้ ไม่ค่อยถูกจริต แต่ก็เห็นความดีงามในหลาย ๆ ด้าน เลยให้ไป 3/5 ดาว แต่ไม่อ่านซ้ำแน่นอน




เล่มที่สอง #พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ คือตอนหยิบมาอ่าน ก็ไม่คาดหวังเท่าไหร่ เพราะแค่คิดว่าอ่านให้จบ ๆ ไป ระหว่างที่มึน ๆ นี่ล่ะ ซึ่งแค่เห็นชื่อเรื่อง ก็รู้สึกถึงความเยอะสิ่งของคนเขียนแล้วอ่ะ แต่เนื้อเรื่องนี่ ประทับใจมากกว่า ไส้เดือนฯ แบบเทียบกันไม่ติดฝุ่นเลยอ่ะ โดยมีเหตุผลประมาณนี้

  1. ประวัติศาสตร์และการเมือง หนังสือเล่าเรื่องของครอบครัวชาวจีน ที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ประเทศไทย โดยร้อยเรียงประวัติศาสตร์ทั้งของไทย จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 8 จนถึงประมาณ 14 ตุลา เข้ากับชีวิตของตัวละครได้อย่างกลมกล่อม แต่เรามีความรู้สึกถึงจุดประสงค์ทางการเมืองของผู้เขียน ที่แอบซ่อนตัวอย่างแยบยลในแต่ละย่อหน้าได้เป็นระยะ ๆ และขมวดปมสุดท้ายว่า ท้ายที่สุด ทุกอย่างก็ถูกลืมเลือนไป ไม่ว่าจะอย่างเป็นธรรมชาติ หรืออย่างจงใจ (ไม่มีการบันทึกไว้ในหนังสือเรียน ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ อยากรู้ให้ไปขวนขวายหาเอาเอง)
  2. Incest หรือการร่วมประเวณีในเครือญาติ นี่เราแอบเห็นว่ามีการสอดแทรกเข้ามาในหลายมิติ ทั้งที่เป็นแบบแท้และเป็นแบบเทียม (คือเข้าใจไปเองว่าเป็นพี่น้อง แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่) ระหว่างพี่-น้อง ลูกพี่-ลูกน้อง พ่อ-ลูก หรือแม้กระทั่ง แม่-ลูก ที่เราแอบรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอนิด ๆ แต่อาจจะไม่พูดถึงโต้ง ๆ เท่าสามแบบแรก
  3. #หนูดาว ซึ่งเป็นตัวเล่าเรื่องหลัก ๆ ของนิยายเล่มนี้ ทุกครั้งที่เป็นฉากของหนูดาวกับยายศรี และเจ้าแมวกุหลาบดำ มันจะมีอาการมึน ๆ #เคว้ง ๆ ยังไงไม่รู้ ทั้งการใช้ภาษา ทั้งอารมณ์ที่สื่อ ทำให้รู้สึกถึงบางสิ่งที่อยู่ระหว่างกลาง จะเป็นคนก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นวิญญาณ หรือเงาสะท้อนของอะไรบ้างอย่างจากที่ไกล ๆ ที่ทำให้รู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น (เอ๊ะ หรือเรามึน เพราะไข้ขึ้นเอง??)
  4. #ภาษา คือบอกเลยว่าเป็น #ยาขม สุด ๆ แต่เล่มนี้อ่านลื่นกว่า ไส้เดือน ฯ เยอะอยู่ คือนี่บอกเลยนะ ว่าเป็นคนลงรายละเอียด ซื้อหนังสือมา #อ่านทุกตัวอักษร (ไม่งั้นจะรู้สึกว่าไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป) ไม่ว่าจะเป็นภาษาเยอรมัน อังกฤษ หรือไทย #ไม่เคยอ่านข้าม แต่งานของพี่แหม่มนี่ ไม่ไหวจริง ๆ คือช่วงที่มีคำวิเศษณ์เยอะ ๆ นี่ ข้ามไปหลายครั้งเหมือนกัน ซึ่งอาการแบบนี้ เคยเกิดกับหนังสือของ J.R.R. #Tolkien The Lord of the Rings เท่านั้น ในช่วงที่บรรยายภูเขา ป่าไม้ แต่อาการนี้ #ไม่เคยเกิดกับหนังสือเล่มไหนของ Murakami หรือ G.R.R. Martin ที่หนาเป็นหลักพันหน้าของ Game of Thornes เลย อ่านหมด เก็บหมด เลยน่าจะสรุปได้ว่า ไม่ชอบภาษาเวิ่นเว้อ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ไทย เยอรมัน
  5. เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้ว ต้องมาเขียน mindmap แบบที่เขียนให้กับ #จักรวาล ของซีรีย์ #DARK สัญชาติเยอรมันใน Netflix ก็ต้องบอกได้ว่า หนังสือเล่มนี้ ไม่ธรรมดา สำหรับการร้อยเรียงเรื่องราว
  6. #SpoilerAlert สัญลักษณ์มีใส่มาในเนื้อเรื่องเยอะอยู่ . . . . . . . . . แมว อีกา ดอกเบญจมาศ ดอกโบตั๋น กระจก ฯลฯ ซึ่งถ้าคนชอบตีความ คงตีได้กว้างขวางเลยล่ะ แต่เรายังไม่สันทัดด้านนี้เท่าไหร่ ก็เลยไม่ขอลงรายละเอียด แต่ที่ติดใจอยู่มากคงจะเป็น #น้ำ คือชะตากรรมของครอบครัวตระกูลตั้ง ทั้งหมด ดู #จงใจ ว่าจะยังไงก็ต้องตายด้วยน้ำ มีทั้งตายอย่าง explicit ด้วยน้ำจริง ๆ กับทั้ง implicit ว่าตายด้วยน้ำ จากนำ้มือของคนที่มี #ตาสีฟ้าดั่งมหาสมุทร หรือแม้แต่เด็กน้อยที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลก ก็ต้องจากโลกนี้ไปจากการสำลัก #น้ำคร่ำ เหมือนกับเป็น #คำสาป ตั้งแต่รุ่นเทียด ของต้นตระกูลที่ตายที่เมืองจีน อ่านเล่มนี้จบ พาลให้คิดถึง ธิดาแห่งแม่น้ำไนล์ แห่งคำสาปฟาโรห์ ที่ชีวิตนี้ ไม่รู้จะได้อ่านตอนจบมั้ย?

#สรุปคั่นสอง ชอบ #แมวกุหลาบดำ มากกกว่ามากกกกกกกก ให้ 4/5 ดาว เลยล่ะ ยิ่งถ้าใครมีพื้นเพเป็นชาวจีนเสื่อผืนหมอนใบ จะอินกับฉากของเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย #มีแนวโน้มอ่านซ้ำ จะทำ mindmap อย่างละเอียด ถ้ามีเวลา


#สรุปของสรุป อ่านจบก็เริ่มผสมปนเป ระหว่าง #ความสุขของกะทิ ที่ก็อ่านจบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไส้เดือนฯ และแมวกุหลาบดำ เพราะทุกเรื่องมี #บ้านริมน้ำ #ทำอาหารไทย และมี #เด็ก เป็นตัวละครทั้งหมด จนไม่แน่ใจว่า #ผีตาเนียร นี่เป็นผีในจักรวาลเดียวกันของ บ้านริมน้ำของกะทิ บ้านริมน้ำนครไชยศรี บ้านริมน้ำแปดริ้ว รึเปล่านะ? หรือเป็นเพราะ #พิษไข้ ที่สรรสร้างเนื้อเรื่องนี้ขึ้นมาในสมองเราเอง?



Kommentare

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ