"มนุษย์ป้า" ไม่ได้มีแต่สัญชาติไทย



เรื่องที่ ๑


ระยะนี้เห็นมีกระแสเรื่องคนไทยไร้มารยาทเยอะ ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ จริง ๆ แล้วเรื่องมารยาทในที่สาธารณะนี่ มันเป็นเรื่อง "จิตสำนึกส่วนบุคคล" มากกว่าที่จะเหมารวมว่า "เชื้อชาติ" หรือ "สัญชาติ" ไหนไร้มารยาท

ตอนที่พาคุณพ่อคุณแม่เที่ยวยุโรป นั่งรถไฟ TGV จาก Stuttgart ไป Paris รวมเวลาเกือบ ๆ 4 ชั่วโมง ที่นั่งได้จองไว้เป็นที่นั่ง 4 ที่และมีโต๊ะตรงกลาง รถไฟก็มีคนนั่งหลวม ๆ เรานั่งกัน 3 คน ส่วนที่นั่ง 4 คนอีกฝั่งมีหนุ่มสาวสองคนนั่งอยู่ ประมาณนักศึกษากลับบ้านช่วงปิดเทอม

สาวน้อยคนนี้ (หน้าตาค่อนข้างดี) ตั้งแต่เริ่มนั่งนางก็พูดภาษาเยอรมันแบบ non-stop เล่าเรื่องครอบครัวของตัวเอง จนเราสามารถอนุมานได้ว่า นางเป็นลูกครึ่ง เยอรมัน-ฝรั่งเศส แต่เคยเรียนอยู่รัสเซีย พ่อมีภรรยาใหม่ ซึ่งภรรยาใหม่เป็นคนแปลก ๆ แต่ที่เราจึ๊ดมากคือ

นางเล่นสอนแฟนพูดรัสเซีย!!!

ซึ่งการสอนภาษาก็แน่นอนว่าจะต้องมีการแก้การออกเสียงให้ชัด
แล้วพูดซ้ำบ่อย ๆ เราก็แบบอึ้งมาก ที่นางพูดไม่หยุด

ซึ่งเราก็ต้องการทำงานระหว่างที่เดินทาง คุณแม่ก็อยากจะหลับ เราก็บอกแม่ว่า เดี๋ยวสักพักนางคงหยุดพูด เราให้เวลานาง 1 ชม. ระหว่างนี้ก็เรียบเรียงประโยคในหัวว่าจะพูดยังไงให้นางหยุดบริหารปากสักที และจะหว่านล้อมยังไงให้สัมฤทธิ์ผล คิด scenario ไว้หลากหลายมาก เผื่อนางวีน เราก็ต้องวีนกลับแบบมีการศึกษา

พอครบเวลา เราก็เริ่มพูดกับนางเป็นภาษาเยอรมันว่า

เรา "ขอโทษนะคะ ช่วยกรุณาหยุดพูดซักระยะได้มั้ยคะ?" (เราใช้คำสรรพนามสุภาพ คือ Sie ไม่ใช่ du)
นาง "ทำไมล่ะ?"
เรา "คือ เสียงของคุณรบกวนพวกเรา และเราต้องการความสงบในการทำงาน ส่วนคุณแม่เราก็ต้องการพักผ่อน ช่วยกรุณาหยุดพูดสักประมาณ 30 นาทีได้มั้ยคะ?"
นาง หยุดคิด แล้วตอบว่า "โอเค"
เรา "ขอบคุณค่ะ"

จากนั้น แฟนนางก็ย้ายจากที่นั่งฝั่งตรงข้าม มานั่งฝั่งเดียวกับนาง แล้วก็หอมนาง แต่นางก็ยังคุยแบบกระซิบกระซาบต่อกับแฟน เราก็โอเครับได้ จากนั้น ทั้งสองคนก็เก็บข้าวของ ย้ายไปนั่งตู้อื่น


อา.....ความสงบ ช่างอายุสั้นอะไรเช่นนี้


พอรถไฟจอดที่สถานี ก็มีชายหนุ่มผมบลอนด์ ใส่แว่นตาพร้อมหนังสือมานั่งแทนที่ของคู่หนุ่มสาว สักพัก ก็มีคุณแม่ เดินมากับลูกสาวตัวน้อย ประมาณไม่เกิน 5 ขวบ เด็กก็ขึ้นไปยืนบนที่นั่งตรงข้ามชายหนุ่ม แล้วก็กระโดดอยู่บนเบาะ คุณแม่ก็คอยประคองน้องไม่ให้หล่น พอกระโดดได้ที่เด็กน้อยก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ฝั่งแม่ก็พยายามบอกให้น้องอย่าทำเสียงดัง แต่ไม่เกิดผล แล้วสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

ชายหนุ่มที่ดูสุภาพ ตะโกน "เฮ้ย" ใส่เด็กน้อย

ได้ผล 
เด็กเงียบกริบ แต่ไม่ร้องไห้ 

ส่วนแม่ก็ไม่พูดอะไร 
จากนั้นสักพัก ก็อุ้มลูกหนีไป


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อใดที่พาเด็กไปในที่สาธารณะ ผู้ปกครองต้องมีหน้าที่ดูแลบุตรหลาน ไม่ให้รบกวนผู้อื่น หากทำไม่ได้ ก็จะมีผู้อื่นทำแทนให้เช่นนี้แล



เรื่องที่ ๒


ในวันหนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนที่สถานีหลักของ Stuttgart เราก็ลากกระเป๋าที่โคตรหนัก พร้อมกับรีบจะไปขึ้นรถไฟไป Berlin เพราะเหลือเวลาประมาณ 6 นาที พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นชายตาบอดเดินมาจะขึ้นรถไฟใต้ดินพร้อมไม้เท้าที่แกว่งไปมาเพื่อกะระยะด้านหน้า โดยมีผู้หญิงอีกคนช่วยประคองแขนอยู่อีกข้าง 

ทันใดนั้นเอง ก็มีสาวเอเชีย text & walk ตามสไตล์ generation "วัฒนธรรมก้มหน้า" ที่กำลังอิน และระบาดไปทั่วโลก เดินไปสะดุดไม้เท้าของชายตาบอดและเสียหลักล้มลงท่าจับกบ เธอก็หันมามองต้นเหตุที่ทำให้ล้ม พร้อมกับมือที่ยังกำมือถือไม่ปล่อย จังหวะนั้น คนหยุดมองเธอ ผ่านไปสองสามวินาที ทุกคนก็กลับไปเร่งรีบเช่นเดิม

เราไม่ได้ยินคำขอโทษจากทั้งสองฝ่าย และมองว่าฝ่ายคนตาบอดไม่ผิดอย่างแรง ส่วนคุณเธอคนนั้นก็หยุด text & walk เปลี่ยนเป็น text & stand โดยยืน ณ จุดนั้น และ text ต่อไป เริ่ด ๆ เชิด ๆ

นิทานเรื่องนี้ บอกได้อย่างเดียวว่าประมาทมาก และน่าละอายใจที่สุด อะไรมันจะเร่งรีบได้ขนาดนั้น ถ้ารีบมาก ก็ยืน text สิ ไม่ใช่ walk & text แล้วเป็นภาระสังคม ดีที่ไม่มีใครเจ็บตัวนอกจากคนก่อเหตุ ไม่งั้นคงจบไม่สวยแน่



เรื่องที่ ๓



เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของน้อง Marina Punch ฝ้ายเลยขออนุญาตน้องเค้าเก็บมาฝาก


วันนี้ตบตีกับคนจีนละ คือเข้าห้องน้ำในห้าง คนรอประมาณ 10 คน มีห้องน้ำอยู่ 4 ห้อง คนพิการ 1 ห้อง ห้องน้ำเด็กอ่อน 1 ห้อง เราก็ไปรอตรงห้องคนพิการเพิ่งฉีดยาที่หลังมาตะเกียกตะกายเดินกับไม้เท้า (อนึ่ง การที่โดนฉีดยาที่ไขสันหลัง ทำให้เวลาจะฉี่ จะขี้นี่อั้นไม่ได้ มันเจ็บ ชา ไร้ความรู้สึก แต่พอมันออกมาจะเสียววาบไปถึงสมอง และเจ็บด้วย ไม่รู้ผู้สูงอายุเป็นเหมือนกันมั้ย แต่คุณยายที่นี่เค้าว่าเป็น)

คนจีนธรรมดาเดินออกมาจากห้องคนพิการ ประหนึ่งว่านักท่องเที่ยว เปิดประตูให้คนจีนผู้หิงอายุประมาณ 28-30 ปีเข้า คนเยอรมันหันมามองเป็นตาเดียว เรากำลังจะเอ่ยปากท้วง ู้หิงจีนที่กำลังจะเข้าห้องน้ำหันมาพูดภาษาจีนใส่
วันนี้เดี๊ยนหงุดหงิดระดับเทพ เนื่องจากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมานอนตี 3 ตื่น 6 โมง บวกกับวันนั้นของเดือน ด้วยความเป็นคนไม่ยอมใครอยู่แล้ว เลยเดินไปเอามือจับประตูแล้วบอกไปว่า

เรา “ไม่ใช่คนจีนฟังไม่ออก”
ผญจีน1 นางนึกว่านางเป็นนางเอกหรือไร นางเบียดตัวเข้าไปห้องน้ำแล้วบอกว่า “ฉันจะเข้าต่อจากเพื่อน”
เลเวลความปรี๊ดขึ้นหน้าเลยตอบไปว่า “อ่อ คนจีนนิสัยแย่ ห้องน้ำคนพิการก็มาเข้า”
ผญ1 “มันว่าง ทำไมจะเข้าไม่ได้ คุณเพิ่งมาก็รอไปสิ”

เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดในห้องน้ำชาวตุรกีเดินมาจับแขนนาง แล้วชี้ให้ไปต่อแถว (ที่เยอรมัน ห้องน้ำในห้างจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดตลอดเวลา แล้วยังอำนวยความสะดวกต่าง ที่จำเป็นอีกด้วย)

ผญ1 นางโมโห นางหันไปพูดภาษาจีนกับผญ2 เดี๊ยนเลยถือโอกาสเข้าไปทำธุระ

ระหว่างนั้น มีอีเวรนางไหนไม่รู้ มันเอามือตบประตูตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนภาษาเยอรมันใส่ แล้วเราก็ได้ยินคนเยอรมันพูดภาษาอังกฤษว่าให้ไปต่อแถว นี่สำหรับคนพิการ ก็มีเสียงเคาะตบประตูเรื่อย ๆ เราเลยแกล้งช้า ๆ คือประมาณ 5 นาที แบบว่าเมิงหยุดตบเมื่อไรก็จะออก

ขณะนั่นโทรไปหาคุณแฟน วันนี้มากับคุณแฟนและเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน ผู้ชายอีก 1 คน โทรไปเล่าให้เค้าฟัง

เมื่อซาบิน่า เข้ามาในห้องน้ำ เราก็เปิดประตูออกไป นางยังไม่หยุด ...

มันชี้หน้าด่าเรา อีชั้นก็ไม่นโม ไม่นับละ เอามือปัดแขนมันตรงข้อศอก มันยกขาจะมาถีบ เลยเอาไม้เท้าตีแรง ๆ (คือเราฟาดที่ต้นขาเลย โมโห บวกกับกลัวจะพิการจริง ๆ หมอบอกแล้วล้มอีกไม่ได้ ล้มกะแทกเมื่อไ ชีวิตนี้มีโอกาสไม่ได้เดินอีกเลย เข้าใจความรู้สึกนี้มั้ย?) พอมันง้างมืออีกข้างจะตบ ไม้เท้ากูนี่ยกสูง แล้วบอกไปว่า “ถ้าคุณจะทำอะไรฉันอีก ไม้เท้านี้ลงหัวคุณแน่ ฉันปกป้องตัวเอง!”

คนท้องกับคนอื่นที่รอพยายามจับอีคนจีนตัวนี้ ซาบิน่าเอาตัวมาบังไว้ อีผู้หญิงจีนอีกคน มันไม่พอใจ มันบอกว่ามันจะแจ้งตำรวจ เราเลยหันไปบอกเจ้าหน้าที่ ให้เค้าช่วยแจ้ง security ให้ด้วย

เราเดินออกมาหน้าห้องน้ำ เล่าให้เพื่อนฟังไม่ถึง 2 นาที รปภ.มา 4 คน อีผู้หญิงจีนนางนั้น เดินออกมาพร้อมเพื่อนผู้ชายจีนอีก 2 คน เราก็เลยบอกรปภ. ชี้ไปที่ 2 นาง แล้วบอกไปว่าที่เราตีนาง เพราะนางจะถีบเราก่อน รปภ.เลยเดินเข้าไปหา เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเล่าเหตุการณให้รปภ.ฟัง

ผู้ชายคนจีน เดินมาหาเรา แบบฮีโมโหมาก แล้วยกมือชี้เรา ถามเราว่า “อยากจะไฟท์มั้ย?” (ในใจเราคิดเลยว่า อีพวกนี้มันวอนจริง ๆ เห็นตรูใช้ไม้เท้า นึกว่าสู้ไม่ไหวหรอ) ยังคิดไม่จบมันพุ่งมา เพื่อนผู้น่ารักเอาตัวมาบังแล้วผลักมันออกไป ขณะที่เรากำลังยกไม้เท้าเตรียมตบตี

คนเยอรมันแถวนั้นหวังดีมาก ๆ จับมือเราแล้วบอกให้ไปทางนู้น เดียวทางนี้รปภ.เคลียร์เอง เราก็ไปนั่งอยู่ตรงแผนกเสื้อผ้าแถว นั้น สักพักกลุ่มเพื่อนมาพร้อมรปภ.กับเจ้าหน้าที่ของห้าง มาขอโทษ พร้อมมอบบัตรกำนัลมูลค่า 50 ยูโรให้ เค้าว่าทางห้างก็ผิด ที่เจ้าหน้าที่ไม่เรียกรปภตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นเคาะห้อง เพราะนึกว่าจะไม่มีอะไรและทางห้างผิดที่ไม่ได้เข้มงวดเรื่องห้องน้ำคนพิการ คือเราไม่อยากได้ แต่อยากให้อี 2 ตัวนั้นมาขอโทษ คุณแฟนบอกว่าให้รับแล้วไปเหอะ ส่วนคนจีนอยู่ในห้องรปภ.ของห้าง รอว่าจะแจ้งตำรวจดีหรือไม่ คิดอยู่ว่าแจ้งดีมั้ย แต่ได้ตีนางไปแล้วพอดีกว่าไม่อยากมากเรื่อง แถมได้เงินมาช้อปฟรี อิอิ

เดียวนี้นี่อะไรมากมาย หรือเราควรใจเย็นกว่านี้ เฮ้อออ



 
คือ ... ก็เข้าใจนะว่าบางทีคิวห้องน้ำธรรมดายาวมาก อั้นไม่ไหว เลยต้องขอมาเข้าห้องน้ำสำหรับคนพิการ แต่หากมีคนพิการหรือคนแก่ที่ต้องการเข้ายืนหัวโด่อยู่ ก็ควรให้เค้าเข้าก่อน มันเป็นมรรยาทสากลไม่ใช่เหรอ?








 

Kommentare

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน