เมื่อมนุษย์ป้าสัญชาติไทย ไปแสดงเดชที่แดนอินทรีเหล็ก





เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของน้องที่รู้จัก ฝ้ายเลยขออนุญาตน้องเค้าเก็บมาฝากเป็นกรณีศึกษา


เรื่องเล่า...เมื่อเช้า ประมาณเกือบ ๆ เก้าโมง ณ ทางเข้าปราสาทแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี
เรากำลังรอเจ้านายและคุยกับหัวหน้าฝ่ายวัตถุโบราณข้าง ๆ ที่ขายตั๋ว ขณะนั้น มีเด็กประถม 20 กว่าคน และคุณครูกำลังต่อแถว รวมถึงนักท่องเที่ยวรัสเซีย และฝรั่งอื่น ๆ แถวยาวมากจริง ๆ ประมาณเกือบ 80 คนเลย อยู่ ๆ มนุษย์ป้าก็ปรากฎตัว ชีเดินเนียน ๆ เดินไปเดินมา แล้วเดินตัดมาหน้าแถว ประหนึ่งว่าจะขอถามคำถาม --- ชีมากับกลุ่มคนไทย ผู้หญิง 5 คน ผู้ชาย 3 คน อายุประมาณ 50-70 ปี แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุน่าจะราว ๆ เดียวกับเรามั้ง (ประมาณ 25 ปี) มาทราบทีหลังว่าคนกลุ่มนี้บินมาจากอังกฤษ เพื่อมาร่วมงานรับปริญญาของคนที่อายุไล่ ๆ กับเรา แล้วเลยมาเที่ยวเยอรมันต่อ


ป้า1 หันไปบอกคุณครู ก่อนที่จะเข้าไปช่องขายตั๋ว “May I ask her a question? = ฉันขอถามคำถามเธอหน่อยได้มั้ย?”
คุณครู “Sure, no problem = อ๋อ ได้สิ ไม่มีปัญหา
ป้า1 “Excuse me, I would like to buy group tickets for 8 people = ขอโทษนะคะ ฉันขอซื้อตั๋วกลุ่มสำหรับ 8 คนค่ะ
จนท. “You need to be in line / next please = คุณต้องไปต่อคิวนะคะ / เชิญคนต่อไปค่ะ กวักมือเรียกคุณครู
(เดี๊ยนแอบหัวเราะ ป้า ๆ หันมาขวับเลย อุ๊บ สงสัยเสียงดังไปหน่อย) อนึ่ง คนขายตั๋วมีช่องเดียว แถมพี่คนขายตั๋ว แขนเค้าด้วนข้างหนึ่ง พี่ขายตั๋วเค้าขายมาหลายปีแล้ว แต่วันนั้นตู้อื่นพนักงานป่วย แล้วมันยังเช้าเลยมีอยู่ตู้เดียว

ป้า 2 กระโจนเข้ามา “Umm, can we buy first? = อืม เราขอซื้อก่อนได้มั้ย? We have an old man = เรามีชายชรามาด้วยนะ (ชี้ไปทางลุง ผมยังไม่ขาวนะ ท่าทางอายุ 50 กว่า แต่ก็เดินได้ปกติ) and we have to take train at 2 pm = และเราต้องขึ้นรถไฟตอนบ่ายสอง ป้า1และป้า2 ก็พยายามอธิบายเป็นภาษาอังกฤษต่าง ๆ นานา แต่ทว่า

จนท. “Nein! No no, you need to be in line = ไม่ได้ คุณต้องไปต่อคิว ชี้ให้ไปเข้าแถว พร้อมกับรับเงินจากคุณครู

ป้า2 หันไปด่าพนักงานเป็นภาษาอังกฤษว่า "armless" จนท.หันมามอง แต่ทำหน้าที่ต่อไป

ระหว่างนั้นเจ้านายหันมาถามเป็นภาษาเยอรมัน
เจ้านาย “คนประเทศไหนเนี่ย
เรา “ประเทศเดียวกับหนูเอง
ขณะนั้น เราก็หันไปหาพี่ล่าม โจเซฟ ซึ่งอยากให้เรียกว่า เซฟฟี่ เป็นคนเยอรมันที่พูดไทยได้ชัดแจ๋ว เป็นล่ามที่ได้รับอนุญาตการแปลในโรงพยาบาล ศาล ตำรวจ ข้อกฏหมาย ท่องเที่ยว และอื่น ๆ ชีมีครบอ่า (ปล. เกย์ เพื่อบอกว่า อย่าเอ๊ะไปนะ)

ป้าคนที่3 หันไปหาลุง “น้องคนนั้นอ่ะ เค้าใส่ข้อมือลายธงชาติไทย
(me// ชิบหายละกู ใส่จนชิน นึกในใจอย่างทันควัน หากมาขอให้ช่วยฝันไปเถอะ ส่วนเซฟฟี่ เอามือขึ้นมาบังหัวเราะนิด ๆ)

ลุงเดินเข้ามาหา “หนู ๆ คนไทยหรือเปล่าจ๊ะ
เรา “ค่ะ คนไทย
ป้า3 “หนูพูดเยอรมันได้เหรอ ช่วยบอกเค้าหน่อยสิว่าพวกป้านะ ขอซื้อตั๋ว แถวมันยาวมากเลย เปิดแค่ช่องเดียว เดี๋ยวป้าไปช้อปปิ้งไม่ทัน เดินก็ไม่ค่อยไหว
เรา “ขอโทษค่ะ หนูคงช่วยไม่ได้ค่ะ
ป้า2 “หนูช่วยหน่อยเถอะนะ คนไทยกันเอง ลองคุยกับเค้าดู เดี๋ยวป้าให้ค่าขนม
เรา “ไม่ค่ะ ป้าคะ การต่อแถว เพื่อซื้อของเป็นสิ่งพื้นฐาน แล้วหนูทำงานหาเงินซื้อขนมเองได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ (พร้อมกับยกมือไหว้อย่างไทย พยายามคุมอารมณ์ ปรกติคงเหวี่ยงล่ะ)

เจ้านายหยุดคุยกับหัวหน้าฝ่าย หัวหน้าฝ่ายเข้าไปในอาคาร และเจ้านายเดินมาถามเป็นเยอรมัน
เจ้านาย “มีปัญหาอะไรหรือป่าว?”
เรา “เค้าอยากให้หนูช่วยพูดซื้อตั๋วให้ก่อน
เจ้านาย “ถ้าเค้าพูดอีก บอกไปเลยว่าจะเรียกตำรวจ เพราะผิดกฎหมาย การแทรกแถวซื้อของ ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิ์ (อะไรซักอย่าง ศัพท์ไม่รู้จัก)”
เรา “ค่ะ

ป้า1 เดินออกมา แล้วตรงมาที่เรา
ป้า1 “หนูมาเรียนเหรอจ๊ะ
เรา “ทำงานค่ะ
ป้า1 “โห เก่งนะเนี่ย ทำงานที่นี่ โตที่นี่เหรอ
เรา “เปล่าค่ะ โตที่เมืองไทย
ป้า2 “หนู ๆ ช่วยป้าซื้อตั๋วหน่อยได้มั้ย เนี่ยถ้ารอ คงต้องรอเกือบครึ่งชม แถวมันยาวมากเลยนะ (ขณะเดียวกันเจ้านายเดินมาข้าง ๆ แล้วเราก็เห็นว่ามีตำรวจ 2 คน และจนท.ปราสาทยืนอยู่ แล้วก็มีล่ามออกมาดูตั้งแต่ป้า ๆ เริ่มตัดคิว)
เรา “ถ้าป้าต่อคิวแต่แรก ป่านนี้คงเหลือประมาณยี่สิบนาทีมั้งคะ หนูว่าป้าไปต่อเถอะคะ อย่าทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเลย นิสัยแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม อีกอย่างนะคะ ป้าหันไปดูสิคะ เด็กตัวเล็ก ๆ คนแก่ที่นั่งรถเข็น คนที่ใส่เฝือกที่เท้า ก็เข้าแถวกันทั้งนั้น หนูไม่ทราบว่า ป้าจะรีบไปไหน แต่ที่นี่ประเทศเยอรมันนะคะ ระวังคำพูดคำจา และการกระทำด้วยค่ะ ลานะคะ หนูทำงานอยู่ (ยกมือไหว้)

ป้า2 ชีโมโหค่ะ ชีตะคอกใส่เราอ่า ดังเลย ชีว่า “ทำไมไม่รู้จักช่วยคนไทยด้วยกัน?
เรา “ถ้าให้ช่วยทำผิด ทำไม่ได้ค่ะ อีกอย่าง นี่ไม่ใช่เรื่องของหนู ไม่ใช่ปัญหาของหนู

ผู้หญิงคนที่น่าจะอายุราว ๆ เดียวกันกับเรา “นี่อีเด็กเวร ขอให้ช่วยก็ไม่ช่วย คนไทยหรือเปล่า? ถือไม้เท้ายืนทื่อ ๆ (ชี้มาที่ไม้เท้า) แล้วบอกทำงาน ขาก็ดูปกติ ตรงไหนมันด้วน? คนพิการอย่างเธอจะทำงานได้ไง? ใครมันจะรอไหว แดดก็ออกต้องยืนต่อแถว ไม่มีร่ม ลมก็แรง อีเด็กนี่อย่าให้รู้นะว่าชื่ออะไร จะด่าให้ถึงพ่อถึงแม่ พ่อแม่คงพิการสินะ ถึงต้องส่งลูกพิการมาทำงานที่นี่

(เรา นะโม ไม่อยู่ละ แต่พยายามคุมอารมณ์สุด ๆ)
เรา “คุณคะ หนูถือไม้เท้า เพราะมีปัญหาตรงหมอนรองกระดูก อีกอย่างทำงานอยู่มาติดต่อธุระกับเจ้านาย ถ้ายังไม่หยุด ฉันจะแจ้งความ
ญ “แจ้งเลยสิ อย่างเธอทำอะไรได้ พิการ บลา ๆๆ

เราหันหน้าเจื่อน ๆ ไปหาเซฟฟี่ ณ ตอนนั้นขอบอกเลย โมโหที่สุด คือมาว่าป๊าม๊า ยิ่งคิดถึงอยู่ ยิ่งอยากกลับบ้าน ตอนนั้นนึกแวบเลย หน้าป่าป๊า ต้องโมโหมากแน่ ๆ ถ้ารู้ว่ามากัดกับคนไทยที่นี่ ก่อนมาป่าป๊ายังบอกว่า “อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องไปมีเรื่องกับใคร ใครมาหาเรื่องก็เดินออกมา สภาพเราไม่ไหว ดูแลตัวเอง

เซฟฟี่ ตะโกนเรียกตำรวจ ตำรวจ 2 คนเดินมา แล้วถามเรา
ตำรวจ1 “มีอะไรให้ช่วยมั้ย?”
เรา “พวกนี้เค้าอยากให้ช่วยซื้อตั๋ว แต่ฉันปฎิเสธ เค้าไม่พอใจ
เซฟฟี่ อธิบายอย่างรัว ๆ เร็วมาก แล้วก็อธิบายเรื่องที่ผู้หญิงว่าเราเป็นคนพิการกับว่าพ่อแม่

ขณะเดียวกันนั้น ป้า1 หันไปหาลุง “เอ่อ เราไปต่อแถวกันเถอะ และผู้หญิงคนนั้นพยายามหยิบไอโฟนขึ้นมาจะถ่ายรูปเรา ทางเราก็อยากถ่ายแต่มือถือกับกระเป๋าวางทิ้งไว้บนรถเจ้านาย

เซฟฟี่ หันมาบอกพวกป้า ๆ เป็นภาษาไทย “เดี๋ยว!! พวกคุณไปหนายไม่ได้ เพราะตำรวจจะเชิญไปที่สถานี

ตำรวจ1 หันมา “All of you come with us to police station = พวกคุณทุกคนตามผมมาที่สถานีตำรวจด้วย
ป้า1 “Why? We do nothing wrong = ทำไมล่ะ? เราไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย
เซฟฟี่ “คุณแทรกคิว และพูดจาหยาบคาย ดูถูก และด่าน้อง และยังด่าทอพนักงานขายตั๋ว ในเยอรมัน ที่คุณทำมันผิดกฎหมาย เชิญคะ!!!”

เรา หันไปหาคุณตำรวจ2 พูดเป็นเยอรมันว่า “ฉันไม่เอาเรื่องนะ ขึ้เกียจไปโรงพัก
ตำรวจ2 “คุณไม่เอาเรื่องก็ได้ แต่จนท.เค้าเอาเรื่อง เค้าเพิ่งแจ้งมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
เจ้านายบอกคุณตำรวจ “งั้น ฉันเอาเด็กฉันไปทำงานต่อ ฝากเรื่องด้วยนะ พร้อมยื่นนามบัตร
คุณตำรวจ2 “ได้ ๆ ยินดี แล้วจะติดต่อไป หากมีอะไร

ตอนทานข้าวกลางวันที่ปราสาท เจอเซฟฟี่ เห็นว่าพวกนี้ ผลสุดท้ายไม่ได้เข้าปราสาท แถมต้องจ่ายค่าปรับให้เจ้าหน้าที่คนที่โดนด่าด้วย นอกจากนี้ เห็นว่ากรุ๊ปนี้จะไปเที่ยวอิตาลี และสเปนต่อ แต่น่าสงสาร เพราะพรุ่งนี้จะโดนส่งกลับไทย... Auf Wiedersehen!!!



มนุษย์ป้า...ต้องเจอแบบนี้ มานั่งนึกตอนหลัง เราน่าจะเอาเรื่อง เพื่อจะได้ค่าขนมมากินเล่น แต่คงโดนป่าป๊าอาละวาดเป็นแน่แท้

- จบบริบูรณ์ - 




Update: วันนี้เซฟฟี่โทรมาเมาท์ บอกว่า พวกป้านะ ไปว่าจนท.ขายตั๋ว เป็นภาษาอังกฤษว่า

"Because you are armless, you don't have another arm, no left hand, that's why the line is very long. We want tickets, why don't you sell to us. You sell it to us, 8 persons will be out of the line. How come! You can work? Such a poor handicap! F*ck you" (เพราะคุณแขนด้วน ไม่มีมืออีกข้าง แถวมันถึงยาว แค่ขอตั๋วก่อนทำไมไม่ขาย ขายให้ซะ คนก็หายไป 8 คนจะได้ไม่ต้องต่อ พิการอย่างนี้มาทำงานได้อย่างไร ร*ยำ)

จนท. ผู้หญิงคนนี้ เค้าแขนซ้ายกุดก็จริง แต่เค้าทำงานได้ ตั้งใจทำ ทำมานานเกือบ 6 ปีแล้ว

จนท. คนนี้แอบไปร้องไห้หลังจากตำรวจพาป้ากลุ่มนี้ไปที่สถานี เธอลางานครึ่งวันเพื่อไปเคลียร์ที่สถานีตำรวจ
ที่เยอรมันจะเป็นปกตินะ เห็นคนพิการทำงาน เพราะรัฐสนับสนุนและให้เกียรติมาก

ตอนที่ป้าแกด่าจนท. เราได้ยินไม่ถนัด แต่คนในห้องขายตั๋วได้ยินหมด เซฟฟี่บอกว่า "รักคนไทย ชอบเมืองไทย แต่ไม่ชอบคนพวกนี้เลย"

ตอนที่ไปสถานีตำรวจ เซฟฟี่ไปในฐานะล่ามอาสา(ไม่เอาเงิน) เซฟฟี่แนะนำให้ป้า ๆ เรียกจนท.สถานฑูตไทย เค้าไม่ยอมเรียก ลุงเลยบอกยอมจ่ายค่าปรับให้จบ ๆ ไป ตอนแรกตำรวจจะส่งฟ้องศาลอาญา เพราะผิดกฎหมายที่นี่ แถมป้า ๆ ยังไปเถียงตำรวจ บอกให้หยวน ๆ อีก ตำรวจเลยยิ่งโมโหนะสิ

เซฟฟี่บอกว่า ผลสุดท้าย คือโดนส่งกลับวันถัดมา ตำรวจเค้าทำเรื่องเร็วนะ ถอนวีซ่าท่องเที่ยวเลย แล้วโดน Black list ไม่ให้เข้าเยอรมัน จนท. ตำรวจให้ไปเก็บของที่โรงแรม แล้วให้เลือกนอนในห้องขังสนามบิน หรือที่สถานี... The End มนุษย์ป้า..


ป.ล. น้องเค้าบอกว่าป้า ๆ แต่งตัวดูดี ลุงใส่นาฬิกาโอเมก้า แล้วน้องแอบถ่ายรูปป้าคนนึงมาได้ เพราะคนอื่นขึ้นรถตำรวจไปหมด แต่คนนี้แกเดินกลับไปเอารถเช่า แล้วบังเอิญน้องเค้าเดินกลับมาเอาของที่รถเจ้านายเหมือนกัน แต่ขออนุญาตไม่ลงรูปนะคะ เพราะไม่มีเจตนาประจานรายบุคคล แต่อยากให้พึงระวังไว้ ว่าเคยกร่างที่ไทยได้แล้ว กรุณาอย่าคิดว่าไปทำที่อื่นก็ได้เหมือนกัน


 

 






Kommentare

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน