ตามล่าหาซื้อ sim card สำหรับมือถือ
#ประสบการณ์ส่วนบุคคล ไม่สามารถใช้ได้กับทุกบริบท
คนที่ไม่มีเวลาอ่านยาว ๆ ข้ามไปอ่านตรง „ความพยายามครั้งที่ 5“ ได้เลยนะคะ
Mission 2: สิ่งสำคัญดั่งอวัยวะที่ 33 คือ สัญญาณมือถือจ้าาา ตามปกติเราก็เปิด roaming มาสำหรับ 14 วัน เพื่อจะมาหาซื้อ SIM ท้องถิ่นที่นี่ ซึ่งจริง ๆ ก็ทำการบ้านมาแล้ว ว่าจะซื้อได้ต้องมีใบลงทะเบียนเข้าเมืองก่อน แต่ก็นะ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
20.10.21 มาถึงเยอรมนี
21.10.21 ไปดูบ้าน แล้วว่าจะไปจ่ายตลาด พร้อมซื้อ prepaid SIM card
#ความพยายามครั้งที่1 มุ่งหน้าไปที่ Lidl เพื่อ prepaid SIM card บ้าน Airbnb ที่เลือกมาพัก เพราะดูจากแผนที่แล้ว สามารถเดินไปมหาวิทยาลัยได้ใน 10 นาที และฝั่งตรงข้าม เป็น Lidl ที่เราสามารถซื้อ prepaid SIM card ได้ เลยออกเดินข้ามถนนไป Lidl ซึ่งปรากฎว่า เค้า „ปิดปรับปรุง“ จ้าาาา ฮือ น้ำตาไหลเลย อุตส่าห์คิดว่าจะได้ซื้อของกินใกล้ ๆ และมีมือถือใช้ สรุป เสียใจ กลับบ้าน
และที่ตลกร้าย มาก ๆ คือ หลังจากนั้น 3 วัน มันกลับมาเปิดปกติจ้าา หลังจากที่เราถ่อไปอีกสาขานึง
22.10.21
#ความพยายามครั้งที่2 นั่งรถเมล์ไปอีกทิศของเมือง เพื่อไป Lidl พยายามบอกพนักงานคิดเงินว่าต้องการ SIM card แต่ทั้งใส่หน้ากาก พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง สรุป ได้เงินเติม Lidl connect มา 25€ โดยที่ยังไม่มี SIM
26.10.21 นัดเจอ Prof. เลยได้เข้าเมือง
#ความพยายามครั้งที่3 เดินดุ่ม ๆ เข้าไปร้านขาย SIM ตรงใจกลางเมืองตอนช่วงเที่ยง ๆ บอกพนักงานที่ดูแล้วยังเด็กน้อยว่าเราต้องการซื้อ SIM น้องยิ้มแฉ่งแล้วบอกว่า “ผมยังเป็นเด็กฝึกงาน aktiviert SIM ใหม่ให้ไม่ได้ครับ”
#ความพยายามครั้งที่4 เดินไปร้าน Telekom คราวนี้ ส่องก่อน ว่าคนที่อยู่ในร้านดูแก่พอประมาณ ที่จะสามารถ aktiviert SIM ได้ บทสนทนาซ้ำเดิม แบบครั้งแรก คราวนี่คืบหน้า ได้มานั่งคุยที่โต๊ะอย่างเป็นการเป็นงาน พอเริ่มขอเอกสาร ก็มาจบตรงที่
“อ่า ถ้ายังไม่มี Anmeldung ผมก็ขาย SIMให้ไม่ได้นะครับ”
ยังพยายามต่อรอง (ทั้งที่รู้ว่าไร้ประโยชน์ แต่ขอหน่อยเหอะ)
“ทำไมถึงต้องมี Anmeldung ด้วยล่ะ? คือนี่เอกสารรับรองว่าเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ JLU และกำลังจะเซ็นสัญญาเช่าบ้าน น่าจะเพียงพอในการยืนยันตัวตนนะ”
“ไม่ได้หรอก คือมันไม่ตามระเบียบ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณจะเอาไปทำอะไรที่ไม่ดีรึเปล่า บลา ๆๆ”
ซึ่งฟังแล้วจริง ๆ ก็ไม่คิดว่ากระดาษแผ่นนึงช่วยป้องกันเรื่องที่ก่อการร้ายได้ขนาดไหน อ่ะ พอ ๆ ไม่สำเร็จ กลับบ้าน
ถึงจุดนี้ เหนื่อยมากและรำคาญ เพราะต้องจัดการเรื่องบ้าน เฟอร์นิเจอร์และยังประกันสุขภาพอีก เลยช่างหัวมัน แล้วโทรกลับไทย ขยายเวลา roaming ไปอีก 14 วัน หายใจหายคอได้ถึง 16.11.21
10.11.21
#ความพยายามครั้งที่5 ครั้งนี้เดินไปที่เคาน์เตอร์ที่แขวน SIM card เอง ไม่คงไม่คุยมันแล้ว ไม่ใส่หน้ากากก็ยังพูดไม่ชัด ใส่หน้ากากยิ่งแย่ไปใหญ่ ไปเลือกหยิบ STARTER PAKET 9,99€ จ่ายเงิน แล้วกลับบ้าน
ทีนี้ การที่จะ aktivieren SIM card ได้มี 2 วิธี คือ
ยืนยันทาง video call (แบบเดียวกับเวลาเปิดบัญชีกับ fintiba)
ยืนยันตัวตนผ่าน deutsche Post
ซึ่งแน่นอนว่าเราเลือกแบบแรก และอย่างที่มีคนมาแชร์หลายครั้งแล้วว่าพาสปอร์ตใหม่ไทย เจ้าหน้าที่ไม่มีฐานข้อมูล
อ้อ แล้วก็ อย่างที่บอกไปครั้งก่อนหน้าว่า ไม่มีบ้าน —> ไม่มี Anmeldung —> ไม่มี bank account ดังนั้น ตอนที่กรอกข้อมูลแรกเข้า ไม่ต้องเลือกเติมเงินจากบัญชี ให้คอยซื้อเครดิตเอาเองจาก Lidl
คิดไว ทำไว รีบนอน แล้วตื่นเข้าเมืองตอนเช้า
11.11.21
#ความพยายามครั้งที่6 ไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ deutsche Post เจ้าหน้าที่น่ารักมาก พยายามช่วย โดยบอกว่า QR code ที่เรามี รวมทั้งตัวเลขต่าง ๆ ไม่มีในฐานข้อมูล แนะนำให้ video call ไปตามเดิม แล้วขอเลขยืนยันตัวตนมา
ทีนี้ สิ่งที่น่าหงุดหงิดคือ สัญญาณ 4G ของที่ roaming มา มันไม่มีข้างในตึก เลยต้องเดินออกไปกด video call ข้างนอก ที่หนาว ฝนตก และเสียงดัง พนักงานหญิงให้คำแนะนำว่าให้เอาตัวเลขนี้ไป อ่ะ โอเค เดินกลับเข้าไปข้างใน
#ความพยายามครั้งที่7 กลับที่คุณผู้ชายคนเดิม เอาตัวเลขนี้ให้ดู เค้าก็บอกว่า ไม่มีในระบบจ้า ให้โทรไปถามใหม่
อ่านวนข้างบน พนักงานหญิงคนใหม่ บอกว่าไม่มีตัวเลขอะไรให้ แต่ลองอันนี้ดู ถ้าไม่ได้ให้โทรไป customer service
#ความพยายามครั้งที่8 เหมือนครั้งที่ 7 เดินออกมาข้างนอกอีก
ทีนี้ โมโห มากก แบบขั้นสุด โทรเข้า customer service (อันนี้คนละอันกับ 2 ครั้งแรก เพราะทั้งสองอันคือ video call ที่เป็น outsource ของ Lidl ในการยืนยันตัวตน) เลยโวยวายไปว่านี่มันอะไรกัน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไป พนักงานผู้ชายตอบกลับมาว่า
„คุณต้องไปเลือกการยืนยันตัวตนผ่าน deutsche Post ตั้งแต่แรก ไม่ใช่ video call“ (กลับไปดู „ความพยายามครั้งที่ 5”)
ทีนี้ เลยโวยกลับไปว่า
„มันเป็นที่ฐานข้อมูลของคุณที่ไม่อัพเดทพาสปอร์ตของประเทศไทย ทำให้เรายืนยันตัวตนจากบ้านไม่ได้ ดังนั้น คุณต้องแก้ปัญหาให้เราเดี๋ยวนี้ เราต้องการใช้มือถือเราวันนี้“
พนักงานเลยบอกว่า „โอเค ๆ เดี๋ยวผมลองแก้ดู”
2 นาทีผ่านไป
„อ่ะ เอาเบอร์นี้ไปให้เจ้าหน้าที่นะครับ”
#ความพยายามครั้งที่9 เข้าไปข้างในอีกรอบ ทีนี้เจ้าหน้าที่ผู้ชายไม่ว่าง เลยไปหาเจ้าหน้าที่ผู้หญิงแทน
สำเร็จจ้าาาาาา
เดินออกมาครั้งนี้ ยิ้มแก้มปริ
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็ใช้มือถือได้แล้วล่ะ
#สรุป คนไทยคะ เลือกยืนยันทาง deutsche Post ค่ะ ชีวิตจะง่ายขึ้นมากกเลย นี่เราเล่าวิธีนี้ให้เพื่อนคนญี่ปุ่นฟัง นางทำทาง video call ได้ ซึ่งนางทำสำเร็จรวดเร็วสุด ๆ ฝากขอบคุณประสบการณ์ที่เจ็บปวดนี้ของเรา
Kommentare
Kommentar veröffentlichen