สรุปหนังสือที่อ่านประจำปี 2022

 





จากปีที่แล้วที่เริ่มจัดระบบการอ่านหนังสือ เพื่อพยายามจะทลายกองดอง ก็พบว่าหนังสือที่มีกว่า 300 เล่ม มาจากนักเขียนจาก 38 ประเทศ โดย TOP 5 ของประเทศที่มีหนังสือเยอะสุด of all time คือ
  1. นักเขียนชาวไทย 75 เล่ม
  2. นักเขียนชาวอเมริกัน 60 เล่ม
  3. นักเขียนชาวอังกฤษ 56 เล่ม
  4. นักเขียนชาวญี่ปุ่น 50 เล่ม
  5. นักเขียนชาวเยอรมัน 30 เล่ม
ตลอดปี 2022 ซื้อหนังสือเพิ่มทั้งหมด 67 เล่ม และอ่านจบไป 37 เล่ม โดยจำนวนนี้ (ไม่รวมที่อ่านหนังสือที่ซื้อมาในปีก่อน ๆ) อ่านไปทั้งหมด 54% (11,746 หน้า จากทั้งหมด 21,858 หน้า) จากที่เคยตั้งปณิธานไว้ว่าจะต้องอ่านหนังสือจากนักเขียนหลากหลายประเทศมากขึ้น ปีนี้ก็สามารถเพิ่มความหลากหลายของนักเขียนได้อีก 6 ประเทศ ดังนี้
  1. อัลจีเรีย
    Apuleius, The golden ass
  2. บราซิล
    Paulo Coelho, The Alchemist
  3. เลบานอน 
    Saifedean Ammous, The Bitcoin standard และ
    Kahlil Gibran, The Garden of the Prophet
  4. ตุรเคีย 
    Orhan Pamuk, My name is Red
  5. แทนซาเนีย 
    Abdulrazak Gurnah, Paradise
  6. ฟิลิปปินส์ 
    Maria Ressa, How to stand up to a dictator
บางเล่มในกลุ่มนี้มีเขียน review ไว้แล้ว สามารถกดที่ชื่อหนังสือได้เลยถ้าสนใจอ่านนะคะ 


TOP 5 ของประเทศที่มีหนังสือเยอะสุด of 2022 แตกต่างจากชุดแรก
  1. นักเขียนชาวอังกฤษ 13 เล่ม
  2. นักเขียนชาวญี่ปุ่น 11 เล่ม
  3. นักเขียนชาวเยอรมัน 10 เล่ม
  4. นักเขียนชาวไทยและอเมริกัน เท่า ๆ กัน คือ 9 เล่ม
สัดส่วนหนังสือแบ่งตาม "ภาษา"​ เพื่อฝึกยามว่าง
  1. ภาษาเยอรมัน 32 เล่ม
  2. ภาษาไทย 19 เล่ม
  3. ภาษาอังกฤษ 14 เล่ม
  4. ภาษาฝรั่งเศส 1 เล่ม
  5. ภาษาสเปน 1 เล่ม

ค่าเสียหายประจำปี 2022 ประมาณ 25,000 กว่าบาท มีทั้งเงินยูโรและเงินปอนด์ที่อัตราแลกเปลี่ยนก็เฉลี่ยเอาไม่ได้คิดตามจริง




สิ่งที่เรียนรู้จากการอ่านปีนี้ คือ หนังสือบางเล่มสามารถเปิดโลกให้เราได้จริง ๆ บางคร้ังถ้าเราไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ หนังสือก็เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราได้เห็นโลกกว้าง ผ่านมุมมองของผู้อื่น แล้วตระหนักได้ว่าตัวเรานั้น เล็กกระจ้อยร่อยเพียงใด 

ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านหนังสือนะคะ Reading is always sexy ♥️♥️♥️









Kommentare

Kommentar veröffentlichen

Beliebte Posts aus diesem Blog

ส่งสัมภาระเกือบ 400 กิโลกรัมจากเยอรมันกลับไทยแบบ DIY

Bild
เรื่องการส่งของกลับไทยจากต่างประเทศนับเป็นหนึ่งใน FAQ ของชาวไกลบ้านทั้งหลาย ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง? ใช้บริการเจ้าไหนดีที่สุด? ราคาต่างกันเยอะมั้ย? บริการเป็นยังไงบ้าง? ไว้ใจได้หรือไม่? ฯลฯ วันนี้ฝ้ายก็จะขอแบ่งปันประสบการณ์ตรงในการส่งของกว่า 400 กิโลกรัมกลับไทยค่ะ 16/05/2014 search หาใน Internet ว่ามีใครบ้างที่รับส่งของทางเรือกลับไทย จากนั้นโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับสัมภาระหนัก 500 กก. ก็จะได้รายการตามนี้     เมื่อพิจารณารายละเอียดที่ได้ แล้วคำนึงถึงเงื่อนไขของเรา ก็พบว่าทางเลือกสุดท้ายน่าสนใจที่สุด เพราะราคาย่อมเยาที่สุด ถึงแม้จะใช้เวลาเดินทางนานที่สุด หากท่านใดมีความจำเป็นต้องใช้ของภายในเวลาที่จำกัด ก็คงต้องพิจารณาทางเลือกอื่นนะคะ 07/07/2014  Pangaea ก็ตอบกลับมาหลังจากเราส่งเมล์ไปสอบถามว่าราคารวมเท่าไหร่และแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง การสื่อสารค่อนข้างรวดเร็วแต่ไม่ลงรายละเอียด ต้องให้เราโทรถามจิกเองตลอดว่า ต้องเตรียมของเองขนาดไหน?  จะจัดใส่คอนเทนเนอร์ยังไง?  แล้วต้องห่อกล่องด้วยพลาสติกอีกม...
Mehr anzeigen

ลองมาทำ Résumé เก๋ ๆ ด้วย Powerpoint ดูนะคะ

Bild
ก่อนอื่นก็ขออนุญาต "สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๘" ทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม blog นะคะ ขอให้มีความสุขตลอดปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส การงานการศึกษาเจริญก้าวหน้านะคะ สำหรับคนที่กำลังเรียนภาษาเยอรมันนะคะ สามารถเขียนอวยพรได้ดังนี้ค่ะ  "Frohes Neujahr und einen guten Rutsch" หรือ "Alles Gute zum neuen Jahr" ช่วงนี้ ได้มีโอกาสลองทำปรับปรุง Résumé ของตัวเอง ให้มีลูกเล่น น่าสนใจ และไม่เป็นทางการมากจนเกินไป เมื่อเทียบกับที่เคยแนะนำวิธีทำไว้ใน blog นี้ค่ะ เตรียมใบสมัครงาน  ลองหาไอเดียจาก Internet ก็ได้ความคิดดี ๆ เยอะแยะให้นำมาปรับใช้ และตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ คือ - เล่าเรื่องทั้งหมดได้ในหน้าเดียว - รูปลักษณ์ของ Résumé ต้องสามารถแสดงถึงตัวตนของเราได้ - ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือ ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมอะไรเพิ่ม รูปแบบที่ชอบ (รูปเยอะหน่อยนะคะ)   สามารถเข้าไปดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ - 45 Creative Resumes to Seize Attention - 50 Awesome resume designs that will bag...
Mehr anzeigen

เหรียญสองด้านของการเป็น Au pair ในต่างแดน

Bild
ตั้งแต่ฝ้ายทำ blog และเปิด page “๗ ปีใต้ปีกอินทรีเหล็ก” มาครบหนึ่งขวบปี คำถามที่ฝ้ายได้รับค่อนข้างบ่อย นอกเหนือจากเรื่องการเรียนต่อและหางานทำในเยอรมนีแล้ว ก็จะเป็นเรื่องการมาเป็น Au pair ที่นี่ เพื่อมาเรียนภาษาเยอรมันระหว่างที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะจะมีที่อยู่และได้เงินเดือน แม้จะไม่มาก แต่ก็ดูน่าสนใจสำหรับคนที่อยากมาหาประสบการณ์ในต่างแดนสักครั้ง ซึ่งฝ้ายก็เห็นกระทู้ใน pantip อยู่เรื่อย ๆ ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ด้านนี้ มีทั้งดีมาก ๆ เหมือนฝัน เพราะได้อยู่กับครอบครัวที่ร่ำรวย นิสัยดี ให้เกียรติ คนที่ทำงานด้วย ส่งผลให้ Au pair มีโอกาสไปล่องเรือยอร์ชที่อิตาลี นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปเที่ยวฝรั่งเศส พักผ่อนที่ดูไบ หรือเข้าไปชมการแข่งขันของ FC Bayern ติดขอบสนาม ( อภิมหากาพย์ออแพร์ ... ขอบคุณตัวเองในวันนั้น ที่ตัดสินใจมาเป็น “ออแพร์” ในวันนี้ )  หรือที่ก้ำ ๆ กึ่ง ๆ เช่น เด็กน่ารัก แต่นายจ้างจ่ายเงินช้า ( ประสบการณ์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นออแพร์ Aupair in Germany ) หรือเด็กเป็นลูกเทวดา แตะต้องไม่ได้ แล้วจะให้เราเลี้ยงยังไง(วะ)? ( เรื่องเล่าจาก Aupair(ชาย) ที่ประเทศเยอรมัน )...
Mehr anzeigen